บทสัมภาษณ์

คุณกฤต ดลบันดาลโชค

"จุดเริ่มต้นและที่มาของบริษัท"

ทางบริษัทเริ่มต้นเมื่อประมาณ 23 ปีที่แล้ว เราเริ่มจากการรับจ้างฉีดชิ้นงานอลูมิเนียมทั่วไป งานที่เกี่ยวกับอะไหล่มอเตอร์ไซค์ตอนแรกรับฉีดแค่มือเบรค มือคลัทช์ และก้ามเบรค ยังไม่ได้ทำเป็นผ้าเบรคสำเร็จรูป ต่อมาเห็นแนวโน้มที่ดีของชิ้นส่วนนี้ เลยคิดขึ้นมาว่าเราน่าจะทำให้ครบวงจรได้ จึงเริ่มเรียนรู้และพัฒนาในส่วนงานเคมีด้วย เราขายผ้าเบรคโดยใช้ยี่ห้อ ยาซากิ มาตั้งแต่ต้น หลังจากทำได้สัก 5 ปี ทางบริษัทก็มีการขยับขยายจากตึกแถวตรงซอยอยู่ดี ย้ายมาอยู่ตรงนี้ (สาธุประดิษฐ์) ตอนแรกก็ยังรับจ้างฉีดชิ้นงานอลูมิเนียมเป็นหลัก แต่เนื่องจากผ้าเบรคเริ่มขายดีมากขึ้น จึงเริ่มขยายการผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อื่นๆ ภายใต้ยี่ห้อ ยาซากิ ได้แก่ ดิสเบรค ดุมล้อ หูกระจก ปะกับเร่ง ก็เรียกว่าค่อยๆพัฒนาจากงานชิ้นเล็กมาเป็นงานชิ้นใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น มีไลน์การผลิตที่ครบวงจรมากขึ้น

"ชื่อยี่ห้อ YASAKI ที่คล้ายภาษาญีปุ่น มีที่มาอย่างไร"

ต้องย้อนไปประมาณ 20 กว่าปีก่อน เวลานั้นตลาดนิยมสินค้าจากญี่ปุ่น ต้องมี Made in Japan จึงจะขายดี ทางคุณพ่อมีความคิดเหมือนเป็นมุขติดตลกของท่าน สมัยนั้นรถ Yamaha Honda Kawasakiกำลังดัง คุณพ่อก็เอามารวมๆกัน เลยกลายเป็นคำว่า “YASAKI” แต่จริงๆแล้ว เป็นยี่ห้อของคนไทย 100% จดเครื่องหมายการค้าในเมืองไทยเรียบร้อย

"สินค้ายี่ห้อ YASAKI ที่ทำตลาดอยู่ตอนนี้"

สินค้าที่ทำตลาดส่วนใหญ่จะเน้นผ้าเบรคและดิสเบรคเป็นหลักส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์อื่นๆ ก็มี ดุมล้อหน้า/หลัง มือเบรค มือคลัทช์ หูกระจก ฝาวาล์ว ชามเม็ดคลัทช์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมี ดิสเบรคสำหรับรถกระบะและรถยนต์ด้วย ซึ่งยังไม่ค่อยได้ทำการโปรโมทสักเท่าไหร่ สินค้าของเราทุกชิ้น ตีตรายี่ห้อยาซากิทั้งหมด ส่วนงานรับจ้างฉีดชิ้นงานอลูมิเนียมตารมสั่งเราก็ยังมีทำอยู่เหมือนเดิม

"ในส่วนผ้าเบรคเริ่มผลิตเมื่อไร และมีกลยุทธ์อะไรที่ทำให้ผ้าเบคร Yasaki เป็นที่นิยม"

เราเริ่มผลิตผ้าเบรคก็เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ตอนแรกกำลังการผลิตของเราค่อนข้างเล็ก เพิ่งจะมาขยายเรื่อยๆ ช่วงประมาณ 15-16 ปีหลังนี้ จุดเด่นของเราคือ เราเน้นคุณภาพเป็นหลัก เป็นนโยบายของทางคุณพ่อตั้งแต่แรกแล้วว่า ผ้าเบรคและดุมล้อ เราถือเป็นชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง ดังนั้นเราจึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพมากๆ ก่อนสินค้าจะออกไปสู่ตลาด เราต้องมั่นใจ มีการทดสอบหลายขั้นตอน รวมถึงการทดสอบกับรถจริง สภาพการใช้งานจริงหลายๆรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าที่ใช้สินค้าของเราจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด

"ทราบว่ามีการส่งออกไปต่างประเทศด้วย"

มีครับ ตอนนี้การส่งออกส่วนใหญ่เราใช้การกระจายสินค้าผ่านตัวแทนในประเทศ แต่ถ้าเป็นรายใหญ่ๆ ก็จะทำในลักษณะให้เขาเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศที่เขาดูแล เช่น ลูกค้าที่ดูไบและอิหร่าน ก็จะเป็นคนกระจายสินค้าในแถบตะวันออกกลาง เป็นต้น

"ความแตกต่างของอะไหล่รถรุ่มใหม่และรุ่นเก่าทำให้เราต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเยอะไหม"

อาจจะเป็นความโชคดีของเราด้วยว่า ชิ้นส่วนที่เราทำเป็นชิ้นส่วนมาตรฐาน ดังนั้นในเรื่องรูปแบบของรุ่นต่างๆ จะไม่ค่อยเปลี่ยน อะไหล่รุ่นหนึ่งสามารถใช้กับรถได้หลายรุ่น ความสับสนในการเลือกซื้อเลือกใช้ค่อนข้างน้อย จะไม่เหมือนกับอะไหล่ตกแต่ง ที่รุ่นและแบบค่อนข้างหลากหลายและเปลี่ยนบ่อย อย่างชิ้นส่วนทั่วไปของรถออโตเมติกกับรถมีเกียร์ก็แตกต่างกันมากพอสมควร แต่ในส่วนผ้าเบรคและดุมจะไม่ค่อยแตกต่างเท่าไหร่ สามารถใช้สายการผลิตเดิมๆได้ แต่เราก็มีการออกสินค้าตัวใหม่สำหรับรถออโตเมติกโดยเฉพาะ เช่น ชุดชามคลัทช์ เป็นต้น

"ผลิตสินค้าเข้าสู่ OEM บางหรือเปล่า"

ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ เมื่อก่อนเคยส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตบ้าง แต่เนื่องจากเรื่องนโยบายและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ช่วงหลังเราตัดสินใจไม่เข้า เน้นทำตลาด AfterMarket อย่างเดียว

"ถ้าเทียบระหว่าง OEM กับของ Yasaki มีความแตกต่างกันไหม "

ถ้าเทียบคุณภาพก็แทบจะไม่แตกต่าง เพราะเราใช้วัตถุดิบแบบเดียวกัน ในส่วนของ YASAKI เราใช้วัตถุดิบคุณภาพค่อนข้างสูง ตัวอลูมิเนียมก็คุณภาพสูงใช้ผลิตพวกดุมล้อได้ พวกเคมีต่างๆ เราก็นำเข้ามาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรื่องคุณภาพเราสูสีกับ OEM เลย แต่ราคาเราย่อมเยากว่ามาก

"พวกชุดเบรคเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยซึ่งในอนาคต สมอ. มีแผนจะเข้ามาจัดมาตราฐานสินค้า มีการวางแผนเตรียมพร้อมไว้อย่างไรบ้าง"

ปกติสินค้าของทาง YASAKI จะส่งไปทดสอบที่สมาคมยานยนต์ของอเมริกา และเราได้ลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องทดสอบที่นำมาทดสอบสินค้าแต่ละล็อตประจำวันอยู่แล้ว เราจึงค่อนข้างมั่นใจหากนำไปทดสอบ น่าจะผ่านเกณฑ์ได้ เพราะว่าสเป็กของเราที่ตั้งไว้ก็เป็นโอเวอร์สเป็กอยู่แล้ว

"กระแสความห่วงใยสิ่งแวดล้อมทำให้ผ้าเบรคปราศจากใยหินเริ่มได้รับความนิยม ช่วยอธิบายผ้าเบรคที่มีใยหินและไม่มีใยหิน แตกต่างกันอย่างไร และมีผลต่อผู้บริโภคอย่างไร"

ตอนนี้ในกลุ่มของใยหินมันเป็นสองขั้วที่ค่อนข้างต่างกันอย่างชัดเจนขั้วหนึ่งเขาจะบอกว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้ แต่อีกขั้วบอกว่าก็เป็นอันตรายเหมือนกัน แต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ผลิต ไม่ใช้ของผู้ใช้ เนื่องจากปริมาณตัวใยหินที่ออกมาตามท้องถนนยังน้อยกว่าฝุ่นจากท่อไอเสีย ผลวิจัยที่แตกต่างกันอย่างมากก็ยังสรุปไม่ได้ว่าอันตรายต่อผู้ใช้จริงหรือไม่ แต่อันตรายต่อผู้ผลิตมากกว่าแน่นอน สำหรับเรื่องการรณรงค์ให้เลิกใช้แร่ใยหินนั้นเนื่องจากราคาเคมีที่จะมาใช้แทนใยหินปัจจุบันราคายังสูงกว่าใยหินมาก ถ้าปรับมาใช้ทันที ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้นมาก ตอนนี้ทางยาซากิเองก็กำลังศึกษาและพัฒนาสูตรเคมีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความสมดุลกัน ให้เป็นสูตรที่ผู้ผลิตอยู่ได้และผู้บริโภคชอบด้วย

"สินค้าเป็นที่นิยมเช่นนี้ เจอปัญหาการลอกเลียนแบบบ้างไหม"

เจอเป็นระยะๆครับ ตอนนี้ของในประเทศเองเราพอจะควบคุมได้ระดับหนึ่ง แต่ในส่วนของต่างประเทศจะควบคุมค่อนข้างยาก ตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็ต้องทำเรื่องจดเครื่องหมายการค้าในประเทศที่เราทำการค้าขายอยู่

"มีอะไรจะฝากถึงผู้ใช้ไหม"

อยากฝากถึงเรื่องความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยครับการเลือกซื้อเลือกใช้สินค้าที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ผ้าเบรค แต่หมายถึงชิ้นส่วนอื่นๆด้วย ถ้าไปใช้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพแล้วเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของคุณหรือคนที่คุณรัก มันจะไม่คุ้มกัน ซึ่งเดี๋ยวนี้ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็เริ่มคำนึงถึงในส่วนนี้มากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี และผู้บริโภคก็ฉลาดในการเลือกซื้อมากขึ้น ถ้าสินค้าตัวไหนไม่ดี คนซื้อก็จะไปบอกต่อกันจนขายไม่ได้ในที่สุด คือไม่อยากให้เลือกซื้อสินค้าโดยดูจากราคาเป็นหลัก อยากให้เลือกสินค้าที่มีคุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสม คิดว่าน่าจะ WIN-WIN มากกว่าครับ